รู้ไว้ไม่เจ๊ง! 5 ทริคจากคอร์สธุรกิจที่มือใหม่ต้องอ่าน

ในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูง ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ การเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่มีความรู้ที่ถูกต้องเปรียบเสมือนการเดินในที่มืด โดยไม่มีเข็มทิศ คอร์สธุรกิจ จึงเป็นเหมือนแสงสว่างที่จะช่วยนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จ การเรียนรู้ แผนธุรกิจ ที่มีความชัดเจน การใช้ การตลาด ที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนา กลยุทธ์การตลาด ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้เปรียบในการแข่งขัน คอร์สเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ หลักการทำธุรกิจ และ วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ การลงทุนกับการเรียนรู้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น

ความท้าทายของการเริ่มต้นธุรกิจในปัจจุบัน

  1. การแข่งขันที่รุนแรง
  • ตลาดที่อิ่มตัว
  • คู่แข่งที่มากขึ้น
  • พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
  1. ความเสี่ยงทางการเงิน
  • เงินทุนจำกัด
  • ต้นทุนที่สูงขึ้น
  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
  1. การปรับตัวสู่ดิจิทัล
  • เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
  • ความจำเป็นในการใช้เครื่องมือดิจิทัล
  • การแข่งขันในตลาดออนไลน์

5 ทริคสำคัญจากคอร์สธุรกิจชั้นนำ

1.วางแผนธุรกิจแบบ Smart & Simple 

การวางแผนธุรกิจที่ดี (Business Plan) ต้องเข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติได้จริง โดยมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้

1.1 การวิเคราะห์ตลาด

  • ขนาดตลาด: ประเมินมูลค่าตลาดรวมและส่วนแบ่งที่เป็นไปได้
  • กลุ่มเป้าหมาย: ระบุอายุ เพศ รายได้ ไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมการซื้อ
  • คู่แข่ง: วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของคู่แข่งหลักในตลาด

1.2 การกำหนดเป้าหมายธุรกิจ

  • เป้าหมายระยะสั้น: ยอดขาย 3-6 เดือนแรก จำนวนลูกค้าเป้าหมาย
  • เป้าหมายระยะกลาง: การเติบโตใน 1 ปี การขยายสาขาหรือไลน์สินค้า
  • เป้าหมายระยะยาว: วิสัยทัศน์ 3-5 ปี แผนการขยายธุรกิจ

1.3 การวางแผนการเงิน

  • เงินลงทุนเริ่มต้น: ค่าอุปกรณ์ สถานที่ สต็อกสินค้า
  • ประมาณการรายรับ: คำนวณจากยอดขายที่คาดหวังต่อเดือน
  • ประมาณการรายจ่าย: ต้นทุนสินค้า ค่าดำเนินงาน ค่าการตลาด
  • การคำนวณจุดคุ้มทุน: ระยะเวลาที่จะได้ทุนคืน

2.การตลาดแบบประหยัดแต่ได้ผล

กลยุทธ์การตลาด Marketing Strategy ที่มีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูง แต่ต้องทำอย่างฉลาดและตรงกลุ่มเป้าหมาย

2.1 การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า

  • How-to Content: สอนวิธีการใช้สินค้า เทคนิคต่าง ๆ
  • Educational Content: ให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์
  • Entertainment Content: สร้างความบันเทิง สนุกสนาน
  • Inspirational Content: แรงบันดาลใจ กรณีศึกษาความสำเร็จ

Facebook

  • โพสต์เนื้อหาที่มีคุณค่าสม่ำเสมอ
  • สร้างกลุ่มชุมชนของแบรนด์
  • ใช้ Facebook Live เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม

Instagram

  • ถ่ายภาพสินค้าสวยงาม
  • ใช้ Stories เล่าเบื้องหลังธุรกิจ
  • สร้าง Highlight รวมข้อมูลสำคัญ

TikTok

  • สร้างคอนเทนต์สั้น น่าสนใจ
  • ใช้เพลงและเทรนด์ที่กำลังมาแรง
  • สร้างความบันเทิงควบคู่กับการให้ข้อมูล

2.3 การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

  • การตอบคอมเมนต์: รวดเร็ว เป็นกันเอง มีประโยชน์
  • การจัดกิจกรรม: แจกของรางวัล ประกวด แข่งขัน
  • การรับฟังฟีดแบ็ก: นำมาปรับปรุงสินค้าและบริการ

3.บริหารเงินอย่างฉลาด การเงินมั่นคง 

การบริหารการเงินที่ดี คือ หัวใจของธุรกิจที่ยั่งยืน

3.1 การจัดการบัญชี

  • แยกบัญชีส่วนตัว-ธุรกิจ
  • บัญชีรายรับธุรกิจ
  • บัญชีค่าใช้จ่ายธุรกิจ
  • บัญชีเงินเดือนส่วนตัว
  • บัญชีเงินออมธุรกิจ

3.2 การควบคุมต้นทุน

  • ต้นทุนสินค้า
  • เจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์
  • ซื้อในปริมาณที่เหมาะสม
  • ควบคุมของเสีย
  • ค่าดำเนินงาน
  • ประหยัดค่าสาธารณูปโภค
  • ใช้เทคโนโลยีลดค่าใช้จ่าย
  • บริหารเวลาพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ

3.3 การบริหารกระแสเงินสด

  • การวางแผนรายรับ-รายจ่าย
  • การตั้งเงินสำรองฉุกเฉิน
  • การบริหารสินค้าคงคลัง

4.สร้างแบรนด์ให้น่าจดจำ

การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งต้องมีความสม่ำเสมอและเป็นเอกลักษณ์

4.1 การสร้างอัตลักษณ์แบรนด์

  • ชื่อแบรนด์: จดจำง่าย สื่อความหมาย
  • โลโก้: ออกแบบสวยงาม ใช้ได้หลากหลายสื่อ
  • สี: เลือกโทนสีที่เหมาะกับธุรกิจ
  • บุคลิกภาพ: กำหนดคาแรคเตอร์ชัดเจน

4.2 การสื่อสารแบรนด์

  • Tone of Voice: กำหนดน้ำเสียงการสื่อสาร
  • Key Message: ข้อความหลักที่ต้องการสื่อ
  • Story Telling: เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ

4.3 การสร้างประสบการณ์ลูกค้า

  • การบริการ: ใส่ใจทุกจุดสัมผัส
  • บรรจุภัณฑ์: สวยงาม ใช้งานสะดวก
  • After Sales: ดูแลหลังการขาย

5.ขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยี 

การใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

5.1 ระบบการจัดการธุรกิจ

  • POS System: ระบบขายหน้าร้าน
  • Inventory System: ระบบจัดการสต็อก
  • CRM System: ระบบจัดการลูกค้า
  • Accounting Software: ระบบบัญชี

5.2 เครื่องมือการตลาดดิจิทัล

  • Line Official Account: สื่อสารกับลูกค้า
  • Email Marketing: ส่งข่าวสาร โปรโมชั่น
  • Google Analytics: วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
  • Social Media Tools: จัดการโซเชียลมีเดีย

5.3 ระบบอัตโนมัติ

  • Chatbot: ตอบคำถามอัตโนมัติ
  • Auto Response: ตอบกลับอัตโนมัติ
  • Schedule Posts: จัดการโพสต์ล่วงหน้า
  • Inventory Alert: แจ้งเตือนสต็อก

กรณีศึกษาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

1. Butter Bear Cafe

betterbear

Butter Bear Cafe เป็นร้านขนมที่เริ่มต้นในช่วงโควิด-19 ซึ่งแม้จะเริ่มต้นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ธุรกิจนี้สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากการมี มาสคอตตุ๊กตาหมีเต้นได้ทุกเพลง ซึ่งทำให้ร้านกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์

กลยุทธ์ที่สำคัญ

1.1 การใช้โซเชียลมีเดียและการตลาดดิจิทัล

  • ร้านนี้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram เพื่อโปรโมทร้านและสินค้า โดยเฉพาะคลิปมาสคอตหมีเต้นซึ่งได้รับความนิยมมากในโลกออนไลน์ สร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ
  • การใช้แคมเปญออนไลน์และโฆษณาบนโซเชียลมีเดียได้ผลดีในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต่าง ๆ

1.2 การสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

การมีมาสคอตที่เต้นได้ทุกเพลงช่วยสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้า และเป็นจุดเด่นที่ไม่มีใครเหมือน ช่วยสร้างความน่าจดจำให้กับลูกค้า ทำให้เกิดการพูดถึงจากปากต่อปาก (Word of Mouth)

1.3 การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

ร้านใช้ความคิดสร้างสรรค์และการทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ เช่น การจัดกิจกรรมหรือโปรโมชันพิเศษให้กับลูกค้าประจำ

ผลลัพธ์

  • ร้านได้การตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนที่ติดต่อมาเพื่อซื้อแฟรนไชส์
  • แบรนด์สามารถสร้างชื่อเสียงในวงกว้างและขยายกิจการได้เร็วแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

2. Starbucks

starbucks

Starbucks เริ่มต้นในปี 1971 โดยเปิดร้านกาแฟในเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา ในตอนแรกนั้น Starbucks ไม่ได้เน้นการขายกาแฟที่ร้าน แต่มุ่งเน้นขายเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง จนกระทั่งในปี 1987 บริษัทได้เปลี่ยนกลยุทธ์และขยายธุรกิจมาเป็นร้านกาแฟที่ลูกค้าสามารถดื่มและเพลิดเพลินกับกาแฟที่มีคุณภาพในร้าน

กลยุทธ์ที่สำคัญ

2.1 การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

  • Starbucks ใช้กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ที่มีความหมายไม่ใช่แค่กาแฟเท่านั้น แต่เป็นประสบการณ์การดื่มกาแฟ ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษทุกครั้งที่เข้าร้าน

2.2 การมีโปรแกรมสมาชิกและการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้า

  • Starbucks ใช้โปรแกรม “Starbucks Rewards” เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ส่วนลด ฟรีกาแฟ และข้อเสนอพิเศษ ช่วยสร้างความภักดีจากลูกค้า
  • การใช้แอปพลิเคชันในการสั่งกาแฟล่วงหน้า ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งกาแฟได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

2.3 การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด

  • Starbucks พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การเพิ่มเมนูอาหารเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการอาหารพร้อมกาแฟ หรือเมนูเครื่องดื่มที่เหมาะกับผู้ที่รักษาสุขภาพ

ผลลัพธ์

  • Starbucks ขยายสาขาทั่วโลกในกว่า 75 ประเทศ และสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี
  • บริษัทได้กลายเป็นผู้นำในตลาดกาแฟระดับพรีเมียมที่สามารถจับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

3. Amazon

amazon

Amazon เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ในปี 1994 โดย Jeff Bezos จากนั้นขยายกลุ่มสินค้าจากหนังสือไปยังสินค้าอื่น ๆ จนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลก

กลยุทธ์ที่สำคัญ

3.1 การมุ่งเน้นประสบการณ์ลูกค้า

  • Amazon เน้นการทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ง่ายขึ้น มีระบบแนะนำสินค้าตามพฤติกรรมการซื้อและรีวิวจากผู้ใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า

3.2 การลงทุนในเทคโนโลยี

  • Amazon ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ระบบการจัดการคลังสินค้า ระบบการจัดส่งสินค้าแบบรวดเร็ว

3.3 การขยายธุรกิจ

  • Amazon ไม่เพียงแค่ขายสินค้าปลีกออนไลน์ แต่ยังขยายไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการ Cloud Computing และยังได้เปิดตัวบริการต่าง ๆ เช่น Prime Video, Amazon Music

ผลลัพธ์

  • Amazon กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์
  • บริษัทสามารถครองตลาดการค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลก และยังเติบโตได้ทุกปี
คอร์สวางกลยุทธ์การตลาดและการบริหาร

หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ คอร์สวางกลยุทธ์ธุรกิจและการตลาด คือคำตอบที่จะช่วยให้คุณเติบโตอย่างมั่นคง คอร์สนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาความคิดแบบ Growth Mindset ด้านธุรกิจ โดยเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงและได้รับการรับรอง คุณจะได้เรียนรู้การวาง กลยุทธ์ธุรกิจ และ การตลาด ที่ช่วยสร้างจุดเปลี่ยนและกำหนด จุดยืน ของธุรกิจในตลาดได้อย่างชัดเจน

คอร์สการขาย

คอร์สปลดล็อกศักยภาพการขาย  เปลี่ยนคุณเป็น Top Sales ด้วยกุญแจสำคัญในการเพิ่มยอดขาย จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ คอร์สนี้จะครอบคลุมถึงเทคนิคปิดการขาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้า การใช้จิตวิทยาในการโน้มน้าว การตั้งคำถามที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกค้าเปิดใจ รวมถึงการใช้คำพูดที่เสริมความมั่นใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความไว้วางใจระหว่างลูกค้าและพนักงานขาย พูดให้ใช่ ขายให้ปัง พร้อมปิดดีลอย่างมั่นใจ!

คอร์สการตลาดออนไลน์

หากคุณอยากมีความรู้และเป็นมืออาชีพด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง IDM Council ได้เปิดคอร์สการตลาดออนไลน์ สอนโดยอาจารย์ที่ได้การรับรองมาตรฐานความรู้จากสถาบันระดับโลก มีประสบการณ์ตรง ระยะเวลาสั้น คอร์สเดียวจบ ครบทุกทักษะ ทางลัดสู่นักการตลาดมืออาชีพ

สรุป

การเริ่มต้นธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยทั้งความรู้และทักษะ การเรียนรู้จาก คอร์สธุรกิจ ที่มีคุณภาพช่วยลดความเสี่ยงและเร่งการเรียนรู้ โดยเน้น แผนธุรกิจ , กลยุทธ์การตลาด และ หลักการทำธุรกิจ ที่ถูกต้อง พร้อมเรียนรู้ วิธีเริ่มต้นธุรกิจ อย่างมั่นใจ ความสำเร็จไม่ได้วัดจากการไม่เคยล้มเหลว แต่คือการลุกขึ้นมาเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

This will close in 0 seconds