
Marketing Mastery for Business Growth
เวลาเรียน
ระยะเวลารวม 18 ชั่วโมง / 3 สัปดาห์
เปิดรับสมัครแล้ว
เริ่มเรียน 3 พฤษภาคม 2568
รายละเอียดหลักสูตร
คำอธิบายหลักสูตร
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรง การมีกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมและเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งถือเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ หลักสูตร “Marketing Mastery for Business Growth” คอร์สเรียน กลยุทธ์การตลาด มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านการตลาดที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และนักการตลาดยุคใหม่
วัตถุประสงค์
1. เรียนรู้หลักการและแนวคิดทางการตลาดที่สำคัญ เข้าใจกลยุทธ์การตลาดแบบดั้งเดิมและดิจิทัล วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด แข่งขัน และลูกค้า
2. ค้นหาและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เข้าใจความต้องการ แรงจูงใจ และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตรงใจ
3. พัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุม ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย การเลือกช่องทางการตลาด การออกแบบกลยุทธ์ราคา การสื่อสารการตลาด และการวัดผล
4. เรียนรู้วิธีสร้างและบริหารแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น ดึงดูดลูกค้า และสร้างความภักดีต่อแบรนด์
5. เรียนรู้จากกรณีศึกษาจริง วิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของธุรกิจชั้นนำ นำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณ
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
· ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ
· นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด
· ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการตลาด
การรับวุฒิบัตร
หลังจากจบการอบรมตามหลักสูตร IDM Council ขอมอบประกาศนียบัตรระดับนานาชาติที่ ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันเช่น European Qualifications Framework, Scottish Qualification Authority, International Board of Digital Marketing และอื่นๆ อีกมากมาย
รูปแบบการเรียนการสอน
- จัดการเรียนการสอนในระบบ Hybrid ทั้งเรียนแบบ Offline ที่อาคารวรรณสรณ์ (BTS พญาไท) พร้อมเรียน Online แบบ Live ผ่านระบบ
- อาจารย์ผู้สอนและเนื้อหาการสอนเป็นภาษาไทย (เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาไทย)
สำหรับนิติบุคคลที่ซื้อคอร์สเรียนที่ IDMCOUNCIL สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%
ตารางเรียน
Strategy Planning
สัปดาห์ที่ 1 | 9.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรการเรียนการสอนแบบเน้นการคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) และกระบวนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (Strategic Decision Making Process) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบปัจจัยแวดล้อมภายนอกและภายในองค์กร ด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ อันอยู่ภายใต้แนวคิด SWOT Analysis และกำหนดกลยุทธ์เบื้องต้นจากการพัฒนาด้วย TOWS Matrix และจัดทำตัวชี้วัดเพื่อการประเมินผลให้สอดคล้องกับกลยุทธ์
เนื้อหาหลักสูตร
1. Introduction to Strategic Planning
ความหมายและความสำคัญของกลยุทธ์ กลยุทธ์หรือแบบแผนที่ทำให้เกิดการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายหรือความสำเร็จที่ได้ตั้งไว้
2. Environmental Analysis
– PESTLE Analysis : การวิเคราะห์ปัจจัยทางการเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม, และเทคโนโลยี
– SWOT Analysis : การวิเคราะห์จุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส, และอุปสรรค
– TOWS Matrix : อุปสรรค , โอกาส , จุดอ่อน , จุดแข็ง
3. Formulating Strategy
การกำหนดมุมมองธุรกิจ เรียนรู้การกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) และภารกิจ (Mission) การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective) การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy) จนไปถึงขั้นตอนการกำหนดแผนปฏิบัติการ (Action Plan) และการสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจและกลยุทธ์ทางการตลาด
4. Implementing Strategy
การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร โดยมีขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย ดังเช่น การกำหนดแผนและการจัดสรรทรัพยากร (Resources Allocation) , การปรับโครงสร้างองค์การ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของการใช้กลยุทธ์และการใช้ทรัพยากร , การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในส่วนของระบบและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และการกระจายกลยุทธ์ (Strategic Deployment) เป็นต้น
5. Evaluating and Controlling Strategy
วิธีการวัดและประเมินความสำเร็จของกลยุทธ์ และ การปรับปรุงแผนกลยุทธ์ตามผลการประเมิน เพื่อให้สามารถบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยพิจารณาจากผลการประเมินแผนกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึง ผลการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ , ปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
6. Business Model Canvas
รูปแบบการเขียนสรุป 9 หัวข้อสำคัญที่อธิบายการดำเนินธุรกิจ ที่ทำให้ผู้บริหารและทีมงานทุกคนสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจและมีความเข้าใจในทิศทางเดียวกันและสามารถใช้ในการวิเคราะห์เพื่อปรับกลยุทธ์ต่อยอดให้กับกิจการได้
7. Case Studies and Practical Applications
กรณีศึกษาเพื่อประยุกต์ใช้ทฤษฎีที่ได้เรียนรู้ และนำทฤษฎี หลักการไปใช้ในสถานการณ์จริง
Strategy and Innovation Creation
สัปดาห์ที่ 1 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียน ความคิดสร้างสรรค์และการสร้างนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นกลยุทธ์และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้องค์กรสมัยใหม่ประสบความสำเร็จได้ตามวิสัยทัศน์ ภารกิจ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่วางไว้ โดยมุ่งกระตุ้นและเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในแนวคิดเรื่องกลยุทธ์และการสร้างนวัตกรรม
เนื้อหาหลักสูตร
1. Innovative Thinking เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การสร้างความคิดใหม่ เป็นเครื่องมือในการสร้างความสามารถทางการแข่งขันของตลาดและธุรกิจ
– การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เหมือนใคร ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้คุณสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณสมบัติหรือคุณค่าที่เฉพาะเจาะจง ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง
– การตอบสนองต่อความต้องการของตลาด การสร้างความคิดใหม่ช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำเสนอสิ่งใหม่และไม่เคยเห็นมีอาจทำให้ธุรกิจของคุณเด่นชัดในตลาด
– การสร้างความรู้สึกของแบรนด์ที่เข้าใจและสร้างความประทับใจ ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้คุณสามารถสร้างแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าธุรกิจของคุณเป็นผู้นำที่คิดสร้างสรรค์
– การสร้างพื้นที่การตลาดที่เฉพาะเจาะจง การนำเสนอความคิดที่ไม่เหมือนใครช่วยสร้างพื้นที่การตลาดที่เฉพาะเจาะจง ทำให้ธุรกิจมีโอกาสในการเติบโตในตลาดที่มีความสนใจ
2. Logical Thinking and Creative Thinking ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคิดของมนุษย์ ที่ส่งผลต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่
– Logical Thinking (การคิดเชิงตรรกะ) เป็นกระบวนการคิดที่อาศัยเหตุผลและข้อมูลในการประมวลผลข้อมูล กระบวนการคิดเชิงตรรกะเป็นกระบวนการคิดที่มักใช้แก้ปัญหาหรือวิเคราะห์ข้อมูล
– Creative Thinking (การคิดสร้างสรรค์) เป็นกระบวนการคิดที่อาศัยจินตนาการและความคิดนอกกรอบในการประมวลผลข้อมูล กระบวนการคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดที่มักใช้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ หรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
3. Obstacles to Creative Thinking ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการคิด และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
– ความกลัว ความกลัวมักทำให้เราคิดแบบเดิมๆ และไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ความกลัวอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความกลัวความล้มเหลว ความกลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือความกลัวการเปลี่ยนแปลง
– ความเคยชิน ความเคยชินทำให้เรามองไม่เห็นสิ่งใหม่ๆ และคิดนอกกรอบไม่ได้ ความเคยชินอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประสบการณ์ ความเชื่อ หรือค่านิยม
– กฎระเบียบ กฎระเบียบอาจถูกจำกัดความคิดและจินตนาการของเรา กฎระเบียบที่เข้มงวดอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น วัฒนธรรมองค์กร นโยบาย หรือกฎหมาย
– สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์ เช่น สภาพแวดล้อมที่กดดัน สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย หรือสภาพแวดล้อมที่ขาดการสนับสนุน ก็สามารถกลายเป็นอุปสรรคต่อการคิดสร้างสรรค์ได้
4. Innovative Synthesis Pathways การสร้างไอเดียใหม่ผ่านเทคนิคการคิดเชิงสังเคราะห์ (synthesis-typed thinking) การคิดเชิงสร้างสรรค์ (creative thinking) การคิดเชิงประยุกต์ (applicative thinking)
– Synthesis-typed thinking (การคิดเชิงสังเคราะห์) เป็นกระบวนการคิดที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างแนวคิดใหม่ เทคนิคการคิดเชิงสังเคราะห์ที่ใช้ในการสร้างไอเดียใหม่
– Creative thinking (การคิดเชิงสร้างสรรค์) เป็นกระบวนการคิดที่ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร เทคนิคการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ใช้ในการสร้างไอเดียใหม่
– Applicative thinking (การคิดเชิงประยุกต์) เป็นกระบวนการคิดที่นำแนวคิดใหม่มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เทคนิคการคิดเชิงประยุกต์ที่ใช้ในการสร้างไอเดียใหม่
5. Generating Fresh Ideas through Adaptation Techniques
เทคนิคการผลิต Idea ใหม่ ๆ ปรับตามโจทย์และสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เทคนิคการสร้าง 100 ไอเดียใหม่ภายในเวลา 10 นาที
Competitor Analysis and Strategy
สัปดาห์ที่ 2 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นการวิเคราะห์คู่แข่ง การพัฒนากลยุทธ์ การเพิ่มยอดขาย กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาด ตั้งรับและบุกตลาด การจับตลาดเฉพาะ เรียนรู้สูตรและเคล็ดลับความสำเร็จเพื่อนำพาองค์กรสู่การเป็นผู้นำทางการตลาดด้วยแนวทางที่จะเพิ่มยอดขายแก่องค์กร โดยหลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงทิศทางการขายการตลาดและความต้องการของลูกค้าในอนาคต รวมถึงการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางการขายการตลาดได้อย่างมีหลักการ การนำหลักการตลาดต่างๆ มาใช้ เพื่อสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ตามเป้าหมาย
เนื้อหาหลักสูตร
1. Competitor Analysis ความสำคัญของการวิเคราะห์คู่แข่งขัน
การวิเคราะห์คู่แข่งขันช่วยให้เข้าใจภาพรวมของตลาดว่าเป็นอย่างไร มีคู่แข่งรายใดบ้าง คู่แข่งแต่ละรายมีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไร กำลังทำอะไรอยู่บ้าง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เรากำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Learning Market Players
เรียนรู้ผู้เล่นในตลาด (Market Players) ทั้ง 3 ประเภท (ผู้นำตลาด ผู้ท้าทาย ผู้ตาม) มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดอย่างไร
3. Learning Market Players
หลักการทำ Niche Market สร้างความแตกต่างในธุรกิจ การทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง
4. Learning Market Players
การใช้ข้อมูลที่ได้รับจากกิจกรรมทางการตลาดและการโฆษณาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและปรับกลยุทธ์ตลาด โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. Winback Customer Strategies for Success
เรียนรู้กลยุทธ์เทคนิคที่ทำให้ลูกค้ากลับมาปฏิสัมพันธ์ ซื้อซ้ำ หรือทำตามที่คุณอยากจะให้พวกเขาทำเพื่อให้ตอบโจทย์ทางการตลาดหรือการขายที่ตั้งไว้
6. Five Forces Model
5 โมเดลแรงกดดันทางการแข่งขัน เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์คู่แข่ง และสภาพการแข่งขันในตลาด รวมถึงปัจจัยที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อวางแผนกลยุทธ์ของกิจการ
7. Database Marketing
กลยุทธ์การตลาดที่อาศัยข้อมูลของลูกค้ามาใช้ในการกำหนดเป้าหมาย สร้างสรรค์เนื้อหา และวัดผลแคมเปญการตลาด
8. Customer Life Value Concept
แนวคิดทางธุรกิจที่นำมาใช้ในการวัดค่าทางการเงินที่บริษัทหรือธุรกิจได้รับจากลูกค้าตลอดระยะเวลาที่พวกเขาเป็นลูกค้า เพื่อช่วยในการประเมินว่าการดูแลลูกค้ามีความคุ้มค่าแค่ไหนต่อธุรกิจในระยะยาว
Personalized Marketing
สัปดาห์ที่ 2 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียน กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจง หลักสูตรนี้เน้นเข้าถึง Insight จาก Data ผ่านข้อมูลการค้นหาของคนไทย คนทั่วโลก หรือเฉพาะเจาะจงแค่จังหวัดที่คุณสนใจเท่านั้น เพื่อที่นำไปต่อยอดธุรกิจหรือแผนการตลาดให้แม่นยำจาก Data การวิเคราะห์ข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้งาน social
เนื้อหาหลักสูตร
1. Personalized Marketing ในเชิง Personalized Communication และ วิธีคิดและการทำ Personalized Product & Service ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล, การสื่อสารที่ปรับแต่งโดยใช้ข้อมูลสังคมและเทคโนโลยี, และวิธีคิดและการทำ Personalized Product & Service โดยการใช้ข้อมูลลูกค้า , ใช้เทคโนโลยีแบบ Real-Time , ใช้ประสบการณ์ทางดิจิทัลที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้ , ใช้ Email Marketing ที่ปรับให้เหมาะกับบุคคล , ใช้ Chatbots และการสนทนาแบบอัตโนมัติ , การใช้ Social Media ในการสื่อสาร และการใช้การตลาดทางออนไลน์แบบทันสมัย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า
– Personalized Marketing การสร้างภาพรวมที่ครบถ้วนและเปรียบเทียบข้อมูลลูกค้าจากหลายแหล่งที่มีอยู่ในระบบธุรกิจเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละราย ภายใต้หัวข้อนี้จะพูดถึงขั้นตอนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำ Customer Single View ตลอดจนการวิเคราะห์และการใช้ข้อมูลเพื่อการตลาดและบริการที่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า รวบรวมข้อมูลลูกค้า , วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
– การทำ Omni-channel เพื่อเก็บ Data และเป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า การสร้างและดำเนินการแบบ Omni-channel ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างทั่วถึงและมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย
2. Personalized/Customized Ad สำหรับหาลูกค้าใหม่ กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์โฆษณาที่เป็นพิเศษและเข้ากันได้กับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย. นำเสนอข้อความโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งจะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าโฆษณาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความสนใจและความต้องการของลูกค้าใหม่
3. Personalized Communication สำหรับการสร้าง Customer Experience
การสื่อสารที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยอาศัยข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าเป็นพื้นฐาน
4. Personalized Communication สำหรับการ Up-sales และ Cross-sales สำหรับลูกค้าเดิม
5. Personalized Strategy : One to One Marketing
การตลาดที่มุ่งเน้นไปที่ลูกค้าแต่ละราย โดยพิจารณาถึงความสนใจ ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายมากที่สุด ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงและตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขาย เพิ่มอัตราการทำซ้ำ และลดต้นทุนทางการตลาดได้
6. การใช้ข้อมูลในแบบ Customer Data Platform (CDP)
– Full-featured CDP (แบบเต็มรูปแบบ) CDP ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจ โดยสามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น ระบบ CRM ระบบ POS ระบบอีเมล ระบบโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
– Specialized CDP (แบบเฉพาะทาง) ที่มุ่งเน้นไปที่ความต้องการเฉพาะของธุรกิจ เช่น CDP สำหรับธุรกิจค้าปลีก CDP สำหรับธุรกิจการเงิน เป็นต้น CDP แบบเฉพาะทางมักมีราคาที่ถูกกว่า CDP แบบเต็มรูปแบบ แต่มีความสามารถน้อยกว่า
Testimonial









สนใจเรียนลงทะเบียน!!
กรอกฟอร์มด้านล่างเพื่อรับการติดต่อกลับรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่น่าสนใจ

TIKTOK Ads Manager Course
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่จะสอนให้ผู้เรียนสามารถบริหารจัดการภาพรวมการตลาดได้อย่างเชี่ยวชาญ พร้อมเทคนิคเคล็ดลับการตลาด ระดับ Specialist

Facebook Instagram Ads Manager
คอร์สสอนโฆษณาบน Facebook Ads และ IG Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกใหม่ติดต่อลูกค้าเก่า พร้อมสอนวิเคราะห์และวัดผลโฆษณาเพื่อนำไปปรับปรุง

Customer Journey
เรียนการตลาดออนไลน์
เตรียมเป็นผู้ขายในโซเชียลมีเดีย กับคอร์ส Social Selling 5 ทักษะควรรู้สู่โลกดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมใบประกาศนียบัตร