
Strategic Transformation for Business Success
เวลาเรียน
ระยะเวลารวม 12 ชั่วโมง / 2 สัปดาห์
เปิดรับสมัครแล้ว
เริ่มเรียน 22 กุมภาพันธ์ 2568
รายละเอียดหลักสูตร
คำอธิบายหลักสูตร
หลักสูตร “Strategic Transformation for Business Success” เป็นการเรียนรู้ที่เน้นการทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและยั่งยืนในธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยเน้นไปที่การประยุกต์ใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับบริบทและความต้องการของธุรกิจ
วัตถุประสงค์
1. รู้เทคโนโลยีและแนวทางการใช้งานในการพัฒนาธุรกิจ
2. เข้าใจข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจ
3. สร้างกลยุทธ์และนวัตกรรมที่เหมาะสมกับธุรกิจ
4. พัฒนาและการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
· ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ
· นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด
· ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการตลาด
การรับวุฒิบัตร
หลังจากจบการอบรมตามหลักสูตร IDM Council ขอมอบประกาศนียบัตรระดับนานาชาติที่ ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันเช่น European Qualifications Framework, Scottish Qualification Authority, International Board of Digital Marketing และอื่นๆ อีกมากมาย
รูปแบบการเรียนการสอน
- จัดการเรียนการสอนในระบบ Hybrid ทั้งเรียนแบบ Offline ที่อาคารวรรณสรณ์ (BTS พญาไท) พร้อมเรียน Online แบบ Live ผ่านระบบ
- อาจารย์ผู้สอนและเนื้อหาการสอนเป็นภาษาไทย (เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาไทย)
สำหรับนิติบุคคลที่ซื้อคอร์สเรียนที่ IDMCOUNCIL สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%
ตารางเรียน
Design a Marketing Strategy
สัปดาห์ที่ 1 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาด ( digital marketing strategy course ) หลักสูตรนี้เน้นกลยุทธ์การออกแบบและความได้เปรียบทางการตลาดในการแข่งขันทางธุรกิจ การมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้คนสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้สะดวกขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีกลยุทธ์ในการทำการตลาด พร้อมทั้งมีความสามารถในการปรับตัว และเข้าใจการส่งมอบสินค้าและบริการให้กับลูกค้าในยุค Customer-centric เพื่อให้สามารถตอบโจทย์และเอาชนะใจลูกค้า
เนื้อหาหลักสูตร
1. Marketing Theory Analysis เข้าใจ 5C ปัจจัยหลักที่มีผลทั้งต่อตลาด ธุรกิจ และลูกค้า ประกอบด้วย Customer (ลูกค้า) , Company (บริษัท) , Competitor (คู่แข่ง) , Collaborator (ผู้ร่วมมือ) , Context (สภาพแวดล้อม)
2. Market and Customer Segmentation Analysis รู้จักลูกค้าให้ลึกซึ้งผ่าน Customer Journey ประกอบด้วย Awareness (การรับรู้) , Consideration (การพิจารณา) , Decision (การตัดสินใจซื้อ) , Use (การใช้งาน) , Post-purchase (หลังการซื้อ)
3. Data Analysis for New Customer Discovery ไอเดียและวิธีในการมองหาตลาดและกลุ่มลูกค้าใหม่ ผ่านผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล
– วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ข้อมูลการขาย ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อ ข้อมูลโซเชียลมีเดีย ข้อมูลประชากรศาสตร์ ข้อมูลเศรษฐกิจ เป็นต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถมองเห็นแนวโน้มของตลาดและพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ตลาดที่กำลังเติบโต ตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลง ความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค เป็นต้น
– วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์ลูกค้า การสำรวจความคิดเห็น การวิจัยเชิงลึก เป็นต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจความต้องการและประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง เช่น ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญ ความต้องการที่ลูกค้ายังไม่ได้รับ เป็นต้น
– ใช้เครื่องมือทางสถิติ เช่น การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า (segmentation) การวิเคราะห์แนวโน้ม (trend analysis) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ (correlation analysis) เป็นต้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจตลาดและกลุ่มลูกค้าได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น เช่น แบ่งกลุ่มลูกค้าตามความต้องการ พฤติกรรม ลักษณะทางประชากรศาสตร์ เป็นต้น
– ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด
4. Marketing Objectives Settin กลยุทธ์หลักในการเลือกตลาด หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างแท้จริง
– เข้าใจความต้องการของลูกค้า ว่าลูกค้าต้องการอะไร มีปัญหาอะไร ต้องการแก้ปัญหาอย่างไร ความต้องการเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการซื้อ ไลฟ์สไตล์ และปัจจัยอื่นๆ
– วิเคราะห์ศักยภาพของตลาด วิเคราะห์ศักยภาพของตลาดว่าตลาดมีขนาดใหญ่เพียงพอหรือไม่ มีการแข่งขันมากน้อยแค่ไหนหรือแนวโน้มของตลาดเป็นอย่างไร หากตลาดมีขนาดใหญ่และการแข่งขันไม่มากนัก ธุรกิจจะมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและสร้างยอดขายได้มากขึ้น
– กำหนดเป้าหมาย เลือกตลาดหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการขยายฐานลูกค้า ต้องการเจาะตลาดใหม่ เป็นต้น
5. Customer Relationship Management การสร้างสรรค์กลยุทธ์และวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และนำมาซึ่งยอดขายตัวอย่าง /กรณีศึกษา องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการทำ CRM ในไทยและสากล
Strategy Development
สัปดาห์ที่ 2 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นกระบวนการกำหนดทิศทางและเป้าหมายขององค์กรในระยะยาว โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมไปถึงทรัพยากรและความสามารถขององค์กร การพัฒนากลยุทธ์ที่ดีจะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จและมีความยั่งยืน มีความสำคัญต่อองค์กรทุกขนาดและทุกประเภทธุรกิจ เนื่องจากช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว
เนื้อหาหลักสูตร
1. BCG Matrix
– Stars : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดและการเติบโตสูง ธุรกิจประเภทนี้มีกำไรสูง แต่ต้องการเงินลงทุนสูงเช่นกัน
– Cash Cows : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงและการเติบโตต่ำ ธุรกิจประเภทนี้มีกำไรสูงและสร้างกระแสเงินสดจำนวนมากให้กับบริษัท
– Question Marks : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดต่ำและการเติบโตสูง ธุรกิจประเภทนี้มีความเสี่ยงสูง แต่มีโอกาสเติบโตสูงเช่นกัน
– Dogs : ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดต่ำและการเติบโตต่ำ ธุรกิจประเภทนี้มักมีกำไรต่ำหรือขาดทุน
2. Inside-Out vs. Outside-In Strategy
การมองแบบ Outside in และ Inside out แนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์หรือกำหนดกลยุทธ์ โดยทั้งสองแนวคิดมีมุมมองที่แตกต่างกัน
– Outside in : เป็นการมองจากภายนอกเข้ามาภายใน
– Inside out : เป็นการมองจากภายในออกไปภายนอก
3. Unique Value Proposition
การค้นหา Unique Value การค้นหาสิ่งที่ทำให้ธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากคู่แข่ง
– Unique Value เชิงผลิตภัณฑ์ : สิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง เช่น คุณสมบัติพิเศษ นวัตกรรม คุณภาพ การออกแบบ เป็นต้น
– Unique Value เชิงบริการ : สิ่งที่ทำให้บริการมีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากบริการของคู่แข่ง เช่น ความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ใส่ใจลูกค้า เป็นต้น
4. Unique Selling Points (USP)
– วิธีการค้นหา Unique Selling Points (USP)
– การทดสอบและปรับแต่ง Unique Selling Points (USP)
– วิธีการสื่อสาร Unique Selling Points (USP)
– ข้อควรระวังในการสร้าง Unique Selling Points (USP)
5. Strategic Thinking vs. Strategic Planning
การแยกความแตกต่างระหว่าง Strategic Thinking และ Routine
เป็นสองแนวคิดของการบริหารและการจัดการองค์กร โดยทั้งสองแนวคิดมีความแตกต่างกัน องค์กรควรให้ความสำคัญกับทั้งสองแนวคิดควบคู่กัน โดยควรมีกระบวนการ Strategic Thinking เพื่อสร้างทิศทางและเป้าหมายระยะยาวให้กับองค์กร และควรมีกระบวนการ Routine เพื่อสร้างระบบและขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
Risk and Opportunity Analysis
สัปดาห์ที่ 2 | 09.00 – 12.00 น.
คอร์สเรียนการวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ หลักสูตรนี้เน้นการวิเคราะห์วัตถุประสงค์และเป้าหมาย กำหนด Risk Matrix ใช้วิเคราะห์ผลกระทบ และโอกาสเชิงกลยุทธ์ (Strategic Opportunity) วิเคราะห์ตลาดและโอกาส วิธีการสร้างแนวป้องกันหรือลดผลกระทบของความเสี่ยง รวมทั้งการจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงโครงและโอกาส เพื่อทราบแนวทางในการติดตามประเมินผล และรายงานผลได้ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าจะประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต (Future Success)
เนื้อหาหลักสูตร
1. Risk Management Model
โมเดลการบริหารความเสี่ยง กรอบการทำงานที่กำหนดขั้นตอนและกระบวนการในการระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร
2. Framework (กรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ)
– Principles (หลักการ) : เป็นแนวทางหรือแนวคิดพื้นฐานที่ใช้ในการกำหนดกรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ
– Processes (กระบวนการ) : เป็นขั้นตอนหรือกิจกรรมที่ต้องทำตามเพื่อบรรลุเป้าหมายของกรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ
– Tools (เครื่องมือ) : เป็นอุปกรณ์หรือทรัพยากรที่ใช้ในการสนับสนุนกระบวนการต่างๆ ในกรอบแนวทางการนำไปปฏิบัติ
3. Opportunity Management (กระบวนการบริหารโอกาส)
– Opportunity Identification (การระบุโอกาส) : เป็นการระบุโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการของลูกค้า แนวโน้มของตลาด การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และโอกาสทางการแข่งขัน
– Opportunity Assessment) (การประเมินโอกาส) : เป็นการประเมินโอกาสที่ระบุไว้ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความเป็นไปได้ของโอกาส ผลกระทบของโอกาสต่อองค์กร และระดับความสำคัญของโอกาส
– Opportunity Planning (การพัฒนาแผนการดำเนินการ) : เป็นการพัฒนาแผนการดำเนินการเพื่อบรรลุโอกาสที่ประเมินแล้ว โดยแผนดำเนินการจะระบุขั้นตอนหรือกิจกรรมที่จำเป็น ทรัพยากรที่จำเป็น และระยะเวลาในการดำเนินการ
– Opportunity Execution (การดำเนินการ) : ดำเนินการตามแผนการที่พัฒนาขึ้น
– Opportunity Monitoring and Evaluation (การติดตามและประเมินผล) : ติดตามและประเมินผลการดำเนินการ เพื่อให้แน่ใจว่ามีโอกาสในการการบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
4. Integrated Risk Management
– Comprehensiveness (ความครอบคลุม) : ครอบคลุมความเสี่ยงจากทุกประเภท ทั้งความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยงทางปฏิบัติการ ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี และความเสี่ยงด้านกฎหมาย
– Connectivity (ความเชื่อมโยง) : การเชื่อมโยงความเสี่ยงจากทุกด้านขององค์กรเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงได้อย่างครบถ้วน
– Continuity (ความต่อเนื่อง) : การบูรณาการระบบการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบการบริหารความเสี่ยงมีประสิทธิภาพและทันสมัยอยู่เสมอ
Business Development and Transformation
สัปดาห์ที่ 2 | 13.00 – 16.00 น.
คอร์สเรียนเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง หลักสูตรนี้เน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การกำหนดตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญ หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความเข้าใจในการกำหนด KPIs เชิงกลยุทธ์ การติดตามและประเมินผลงาน เพิ่มประสิทธิผลของงานและเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
เนื้อหาหลักสูตร
1. Market Research ดูความต้องการของตลาดแรงงานสำหรับทักษะต่างๆ
– การสำรวจความคิดเห็น เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ โดยผู้วิจัยจะจัดทำแบบสอบถามเพื่อสอบถามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับทักษะต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อตลาดแรงงาน
– การสัมภาษณ์เชิงลึก เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก โดยผู้วิจัยจะสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเพื่อเจาะลึกถึงความคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับทักษะต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อตลาดแรงงาน
– การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลการจ้างงาน ข้อมูลการศึกษา และข้อมูลประชากรศาสตร์
2. Customer Development ช่วยให้ลูกค้าองค์กรมองเห็น Skill Gaps และวางแผนการพัฒนาบุคลากรในองค์กรได้อย่างเหมาะสม
3. Partnerships สร้างความร่วมมือกับองค์กร สถานศึกษา หรือผู้สอน
4. Operations จัดการงานที่เกี่ยวข้องกับคอร์สต่างๆ ที่มีอยู่ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
5. Key Factor of Success การกำหนดปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจ
6. Strategy Map การใช้แผนที่กลยุทธ์ ในการนำกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการ เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการกำหนดและสื่อสารกลยุทธ์ขององค์กร โดยแสดงความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุประสงค์ขององค์กรในมุมมองที่แตกต่างกัน 4 มุมมอง ได้แก่
– Financial Perspective (มุมมองด้านการเงิน) : แสดงถึงเป้าหมายทางการเงินขององค์กร เช่น ผลกำไร การเติบโต มูลค่าตลาด
– Customer Perspective (มุมมองด้านลูกค้า) : แสดงถึงเป้าหมายในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ความพึงพอใจของลูกค้า การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
– Internal Process Perspective (มุมมองด้านกระบวนการภายใน) : แสดงถึงเป้าหมายในกระบวนการภายในขององค์กร เช่น ประสิทธิภาพของกระบวนการ นวัตกรรม
– Learning and Growth Perspective (มุมมองด้านการเรียนรู้และการเติบโต) : แสดงถึงเป้าหมายในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร เช่น ความรู้และทักษะของพนักงาน วัฒนธรรมองค์กร
7. Steps for using strategy maps to translate strategies into action plans
ขั้นตอนการใช้แผนที่กลยุทธ์ในการนำกลยุทธ์ไปสู่แผนปฏิบัติการ
– กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร วิสัยทัศน์และพันธกิจเป็นพื้นฐานของกลยุทธ์ขององค์กร โดยวิสัยทัศน์เป็นภาพอนาคตที่องค์กรต้องการเป็น ส่วนพันธกิจคือหน้าที่หลักขององค์กรที่ต้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์
– วิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กร การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กรจะช่วยให้องค์กรเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร เช่น ปัจจัยทางการตลาด ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางเทคโนโลยี ปัจจัยทางสังคม และปัจจัยทางกฎหมาย
– วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กร การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กรจะช่วยให้องค์กรเข้าใจปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร
– กำหนดเป้าหมายขององค์กร เป้าหมายขององค์กรเป็นการกำหนดสิ่งที่องค์กรต้องการบรรลุ โดยเป้าหมายควรมีความชัดเจน วัดผลได้ ท้าทาย และบรรลุได้
– กำหนดตัวชี้วัดของเป้าหมาย ตัวชี้วัดของเป้าหมายเป็นเครื่องมือในการวัดความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย โดยตัวชี้วัดควรมีความชัดเจน วัดผลได้ เชื่อถือได้ และสอดคล้องกับเป้าหมาย
– กำหนดแผนงาน แผนงานเป็นการกำหนดแนวทางในการบรรลุเป้าหมาย โดยแผนงานควรมีความชัดเจน ครอบคลุม และสามารถดำเนินการได้
– สื่อสารกลยุทธ์ การสื่อสารกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจกลยุทธ์และมีส่วนร่วมในการดำเนินการ
Testimonial









สนใจเรียนลงทะเบียน!!
กรอกฟอร์มด้านล่างเพื่อรับการติดต่อกลับรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่น่าสนใจ

TIKTOK Ads Manager Course
คอร์สเรียน Digital Marketing ที่จะสอนให้ผู้เรียนสามารถบริหารจัดการภาพรวมการตลาดได้อย่างเชี่ยวชาญ พร้อมเทคนิคเคล็ดลับการตลาด ระดับ Specialist

Facebook Instagram Ads Manager
คอร์สสอนโฆษณาบน Facebook Ads และ IG Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกใหม่ติดต่อลูกค้าเก่าพร้อมสอนวิเคราะห์และวัดผลโฆษณาเพื่อนำไปปรับปรุง

Customer Journey
เรียนการตลาดออนไลน์
เตรียมเป็นผู้ขายในโซเชียลมีเดีย กับคอร์ส Social Selling 5 ทักษะควรรู้สู่โลกดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมใบประกาศนียบัตร